ที่มาของบล็อกนี้เป็นบทความตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งมีตัวประกอบคือคุณ Andrew W.K. และผู้ที่ถามคำถามจากทางบ้านซึ่งใช้ชื่อว่า Son of A Right-Winger โดยเป็นบทความในเชิงการขอคำปรึกษาในการรับมือกับคุณพ่อซึ่งมีนิสัยขวาจัด ความพิเศษที่ทำให้ผมต้องหยิบบทความนี้มาบันทึกไว้ในบล็อกแทนที่จะอ่านแล้วลืมมันไปนั้นมีด้วยกันหลายเหตุผล ในส่วนหนึ่งคือความเปลี่ยนแปลงของสังคมซึ่งมันแทบไม่เปลี่ยนไปเลยแม้เวลาจะผ่านไปแล้ว 5 ปี และอีกส่วนหนึ่งคือปัญหาด้านความเข้าใจระหว่างคนซึ่งในรุ่นที่แตกต่างกันซึ่งเกิดขึ้นอยู่แล้วในชีวิตของทุกๆ คน

แน่นอนอยู่แล้วว่าหากคำตอบของคำถามไม่ได้น่าประทับใจ ผมคงไม่หยิบการพูดคุยนี้มาบันทึก ผมคิดว่าคำตอบของคำถามซึ่งเป็นที่มาของการพูดคุยนั้นเป็นหนึ่งในตัวอย่างของการใช้ภาษาที่ดีตัวอย่างหนึ่งเพราะมันได้อธิบายถึงความสัมพันธ์พื้นฐานของคนซึ่งเราอาจลืมมันไปด้วยรูปแบบของการใช้คำและประโยคที่พื้นฐานไม่ต่างกัน เมื่อภาษาไม่ได้เป็นกำแพงขวางความเข้าใจ ความเข้าใจจึงเกิดขึ้นได้ง่ายพร้อมกับความรู้สึกประทับใจจากการอ่าน

ผมเชื่อว่าคำถามจากคุณ Son of A Right-Winger น่าจะเป็นคำถามในลักษณะเดียวกันที่เคยเกิดขึ้นในความคิดของใครหลายๆ คน ผมจะขอคัดลอกคำถามนี้และเน้นส่วนที่สำคัญที่สุดออกมาให้ได้เห็นครับ

Hi Andrew,

I’m writing because I just can’t deal with my father anymore. He’s a 65-year-old super right-wing conservative who has basically turned into a total asshole intent on ruining our relationship and our planet with his politics. I’m more or less a liberal democrat with very progressive values and I know that people like my dad are going to destroy us all. I don’t have any good times with him anymore. All we do is argue. When I try to spend time with him without talking politics or discussing any current events, there’s still an underlying tension that makes it really uncomfortable. Don’t get me wrong, I love him no matter what, but how do I explain to him that his politics are turning him into a monster, destroying the environment, and pushing away the people who care about him?

Thanks for your help,

Son of A Right-Winger

ผมแนะนำให้อ่านคำตอบของคุณ Andrew W.K. เต็มๆ ก่อนที่จะอ่านสิ่งที่ผมจะสรุปต่อไป เพราะนั่นคือส่วนสำคัญและสวยงามจริงๆ ของบทความนี้ คลิกที่นี่เพื่ออ่าน

ถ้าอ่านจบแล้ว ผมจะขอสรุปประเด็นที่คุณ Andrew W.K. พิมพ์ตอบไล่เรียงไปดังนี้ครับ

  • สิ่งที่คุณ Andrew W.K. นำเสนอเป็นประเด็นแรกๆ คือลดคุณค่าของความเป็นคนด้วยความเชื่อและมุมมองทางด้านเมืองซึ่งนั่นทำลายความสัมพันธ์พื้นฐานที่สำคัญที่สุดไป เมื่อถึงจุดที่ความสัมพันธ์หายไปและไม่มีคุณค่า สิ่งที่หลงเหลือจะมีเพียงแค่การถกเถียงยากจะหาทางชนะ และถึงแม้จะหาทางชนะได้ ลึกๆ ในใจของเราก็ยังปรารถนาที่จะเอาชนะและไปหาถึงที่สุดในความขัดแย้ง
  • โลกไม่ได้ถูกทำลายด้วยความเห็นต่างทางด้านการเมืองหรือความเชื่อที่แตกต่างกันในทางศาสนา แต่โลกจะถูกทำลายเมื่อคนซักกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าตนหรือกลุ่มของตนนั้น “ดี” กว่าอีกกลุ่มคนหนึ่งที่มีความคิดที่แตกต่างกัน เมื่อวันที่ความเชื่อนั้นยิ่งใหญ่และอยู่เหนือการตระหนักถึงความเป็นมนุษย์ซึ่งกันและกัน
  • ความสัมพันธ์ระหว่างคนซึ่งทำให้เรายังคงอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ทำลายล้างกันเองจนหมดสิ้นแท้จริงนั้นแสนเปราะบาง มันมีโอกาสที่จะถูกทำลายได้ไม่ว่าจะด้วยความเข้าใจของเราเองซึ่งมีต่อผู้อื่นที่มีที่มาจากการดูว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไรหรือมาจากที่ไหน จากความเชื่อว่าผู้อื่นมีความเป็นมนุษย์ที่น้อยกว่าและทำให้เขาสมควรจะได้รับน้อยกว่าเรา หรือแม้กระทั่งจากการปลดปล่อยอารมณ์ไปตามความตื่นเต้นของการโต้เถียงและทะเลาะเบาะแว้ง
  • มันไม่มีทางที่เราจะรวบรวมและแยกแยะสิ่งที่มีความซับซ้อนที่สุดอย่างชีวิต, ความจริงและประสบการณ์ของผู้คนไว้ในระบบของความคิดซึ่งมีเพียงสองตัวเลือก ดีหรือเลว ขวาหรือซ้าย ขาวหรือดำ
  • ในทุกขณะที่มนุษยชาติยังคงเชื่อมถึงกันด้วยความรักต่อตนเองและต่อผู้อื่น ความรักและสายสัมพันธ์บนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ได้ช่วยให้โลกเขยิบห่างออกจากปากเหวที่ดิ่งลงไปสู่การทำลายล้าง และนั่นถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากๆ ของมนุษยชาติที่ยังคงทำให้ปัจจุบันยังคงอยู่และดำเนินต่อไปสู่อนาคตที่เรามุ่งหวังเอาไว้ ผมพยายามที่จะอธิบายย่อหน้ารองสุดท้ายเป็นภาษาไทยแต่พออ่านดูแล้ว บางทีการคัดลอกต้นฉบับมาเป็นส่วนจบของบล็อกนี้อาจเป็นการจบที่ดีและสวยงามกว่า ดังนั้นก็ขอจบบล็อกนี้ไว้ด้วยย่อหน้านี้แล้วกันครับ

So we must protect and respect each other, no matter how hard it feels. No matter how wrong someone else may seem to us, they are still human.

No matter how bad someone may appear, they are truly no worse than us.

Our beliefs and behavior don’t make us fundamentally better than others, no matter how satisfying it is to believe otherwise.

We must be tireless in our efforts to see things from the point of view we most disagree with. We must make endless efforts to try and understand the people we least relate to. And we must at all times force ourselves to love the people we dislike the most. Not because it’s nice or because they deserve it, but because our own sanity and survival depends on it.

And if we do find ourselves pushed into a corner where we must kill others in order to survive, we must fully accept that we are killing people just as fully human as ourselves, and not some evil abstract creatures.